สมุนไพรแห้ม ลดความดันเบาหวานราคา ส่ง
สมุนไพรแห้ม จากงานวิจัยของสถาบันวิจัยสมุนไพร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ฟันธง รักษาเบาหวานและน้ำตาลได้ 100%
ต้นแห้ม มีชื่อทางการแพทย์ว่า “Coscinium fenestratum (Gaertn.) Colebr. อยู่ในกลุ่มของ Menispermaceae” มีลำต้นเหมือนกันกับต้นขมิ้นเครือ
สรรพคุณเด่นๆ ของแห้ม
ลดไขมันอุดตันในเส้นเลือด ลดน้ำตาลในเลือดทำให้ความดันต่ำ (คนเป็นโรคความดันต่ำไม่ควรรับประทาน เพราะยิ่งทำให้ความดันจะต่ำลงไปอีก ก่อนที่คุณจะกินแห้ม ควรตรวจร่างกายก่อน เป็นโรคความดันต่ำหรือไม่) ช่วยลดน้ำตาลเหมาะสำหรับคนที่เป็นโรคเบาหวานได้เป็นอย่างดี่
แห้ม จะช่วยปรับความดันสูงให้ต่ำลงได้ มีข้อมูลเพิ่มเติม มีคุณลูกค้าท่านหนึ่ง คุณแม่ของท่านป่วยเป็น โรคเบาหวาน ซึ่งได้ทราบข่าวจากงานวิจัยและสื่อต่างๆ มีความสนใจอยากจะนำแห้มมาทดลองรับประทาน จึงได้นำมากิน ซึ่งก่อนที่จะกินแห้มนั้น ได้ไปหาคุณหมอซึ่งมีน้ำตาลในเลือดที่ค่อนข้างสูง และเป็นโรคเบาหวานมาแล้ว 15 ปี ต้องรับประทานยาแผนปัจจุบันตลอด
แต่เมื่อคุณแม่ได้รับประทานแห้ม ไปสักระยะหนึ่ง และได้ไปพบหมอเพื่อวัดน้ำตาลในเลือด ผลปรากฏว่า น้ำตาลในเลือดลดได้จริงๆ วิธีการกินของคุณแม่ ได้กินตำรับยา ตรีผลาด้วย เพราะตรีผลาเป็นตำรับยา ที่ช่วยปรับระบบความสมดุลธาตุภายในร่างกาย ดังนั้นท่านใดอยากรับประทานแห้มเพื่อเห็นผลเร็ว น้ำตาลและความดันในเลือดลดลง แนะนำกินยาปรับธาตุด้วยนะค่ะ ได้ผลดีจริงๆ
ข้อแนะนำในการรับประทาน
ผู้ที่รับประทานเพื่อรักษาโรคเบาหวาน ก่อนที่จะนำมารับประทานจะต้องศึกษาให้ดีเสียก่อน เพราะถ้าไม่ศึกษาวิธีการกิน อาจเป็นอันตรายได้เพราะแห้มมีสรรพคุณทำให้น้ำตาลลดลง ถ้ารับประทานไปมากๆ โดยไม่มีการระวัง หรือไปพบแพทย์เพื่อตรวจวัด อาจทำให้น้ำตาลในเลือดของคุณลดลงเกินความพอดีกับร่างกายของคุณได้ เพราะสมุนไพรชนิดนี้ มีทั้งคุณและโทษใช้ให้พอดีกับร่างกายของเราก็รักษาโรคได้และได้ผลดีด้วย แต่ถ้าใช้ไม่เป็นกินผิดวิธี ก็ทำสามารถทำร้ายคุณได้เ่ช่นเดียวกัน
ข้อมูลอ้างอิง ฐานข้อมูลสมุนไพรมหิดล http://www.medplant.mahidol.ac.th
คำเตือน ต้นแห้ม และขมิ้นเครือเหมือนกันมาก ผู้ขายบางรายนำเอาขมิ้นเครือมาขายแทนแห้ม ซึ่งเเทนที่เราจะได้รักษาเบาหวาน กลายเป็นได้ขมิ้นเครือมารักษาโรคผิวหนังแทน ใช้เท่าไหร่ก็ไม่ได้ผล เพราะขมิ้นเครือมีสรรพคุณรักษาพวกโรคผิวหนังต่าง เช่น คันที่คอ คันที่ศรีษะ หรือคันใต้ร่มผ้า โดยการนำมาผสมกับขี้ผึ้ง
ภาพด้านล่าง เป็นภาพข้อเปรียบเทียบ
วิธีรับประทาน ครั้งละ2 แคปซูล 3 ครั้ง/หลังอาหาร 1 ชั่วโมง
ขนาดบรรจุ 100 แคปซูล(1แคปซุลบรรจุ 350 มิลลิกรัม)
ทะเบียนพานิชย์เลขที่ 0507114722858
ใบอนุญาติผลิตยา ชม. 1/51
เกษมสิษฐ์ คำก้อน
เภสัชผู้ควบคุมการผลิต บ.ภ. 19892
ผู้จัดการฝ่ายขาย 089-1710545
Line ID : @sukanyathaig
Line ID : sukanyathaig
เชียงดาวเฮิร์บ
การกินสมุนไพร ผลดี คือทำให้ร่างกาย ไม่สะสมสารพิษ ซึ่งยาแผนปัจจุบันจะมีสารสเตรอยด์ เมื่อรับประทานมากเกินไป จะทำให้ระบบไตและตับเสื่อมสภาพเร็ว
แต่ยาแผนโบราณ จะเห็นผลช้ากว่ายาเคมี ซึ่งส่วนใหญ่ยาเคมี ผลิตมาจากสารสังเคราะห์ การรับประทานยาสมุนไพรไทย เห็นผลช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของเราด้วย
ถ้าระบบธาตุแข็งแรงดี กินสมุนไพรจะเห็นผลเร็ว เพราะร่างกายเราพร้อมที่จะรับยาทันที แต่ถ้าธาตุไม่แข็งแรง อาจต้องใช้ระยะเวลานิดหนึ่ง ดังนั้นรับประทานสมุนไพร คุณต้องใจเย็นๆ อย่าใจร้อน
คำแนะนำดีๆ รับประทานยารักษาโรคอะไรก็แล้วแต่ ควรกินยาปรับธาตุ คือตรีผลา และกระชายดำด้วย จะทำให้ตัวยาที่เรากินและรักษาโรคอยู่นั้น ได้ผลดีและเร็วขึ้น เพราะยาตรีผลา เป็นยาปรับธาตุ ปรับความสมดุลให้ร่างกายทำงานเป็นปกติ ส่วนกระชายดำ ทำให้เสริมสร้างบำรุงกำลังสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคต่างๆ ไม่ต่างอะไรกับการกินรังนก หรืออาหารเสริมบำรุงกำลังทั่วไป
ตัวยาสมุนไพร ทั้งสองชนิดนี้ รับประทานได้ทั้งหญิงและชาย รวมไปถึงเด็กก็สามารถรับประทานได้ และควรทานเป็นประจำ เหมือนเรากินข้าว จะป้องกันไม่ให้เราเป็นโรคต่างๆ นี่คือคำแนะนำส่วนหนึ่งของแพทย์ทางเลือกและแพทย์แผนไทย อ้างอิงจากฐานข้อมูลสมุนไพร หรือจะโทรไปที่ที่มงานวิจัยมหาวิทยาลัยมหิดลเพื่อขอความรู้เพิ่มเติมก็ได้ แต่ถ้าต้องการเอกสารบางอย่าง ท่านอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายบ้างตามความสมควร เพราะที่มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นเป็นมหาวิทยาลัยทางการแพทย์ของไทย ที่มีการวิจัยงานสมุนที่สำคัญของไทย ในระดับชาติ
ยาสมุนไพร ไม่ไช่ยาเทวดา กินปุ๊บหายปั๊บ ถึงจะหายช้าแต่ก็ไม่เข้าไปทำลายตับไตเราครับ